ตลาดตกต่ำอย่างไม่รู้จบ | การฟื้นตัวของ BTC อยู่ที่ไหน?

1. ด้วยการมีส่วนร่วมของสถาบันอย่างลึกซึ้งในตลาดสกุลเงินดิจิทัล ประสิทธิภาพของ Bitcoin นั้นใกล้เคียงกับหุ้นเทคโนโลยีจริงๆ

2. การลดลงของรอบนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

3. เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ธนาคารกลางสหรัฐประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง 50 จุด โดยเพิ่มช่วงเป้าหมายของอัตราเงินกองทุนของรัฐบาลกลางเป็น 0.75% ~ 1% เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม แนวโน้มตลาดพลิกกลับอย่างรวดเร็วและเปิดรอบการลดลงรอบปัจจุบันอย่างสมบูรณ์

4. ราคาของ Bitcoin มีแนวโน้มลดลงอย่างรวดเร็วและทดสอบระดับราคาที่ 30000 ดอลลาร์ ครั้งสุดท้ายที่ Bitcoin ร่วงลงคือในเดือนมิถุนายน 2021

5. ในวันที่ 10 พฤษภาคม ราคาของ Bitcoin พุ่งแตะระดับแนวรับที่ $30000 แล้วดีดตัวขึ้น จากนั้น เอลซัลวาดอร์ ซึ่งเป็นประเทศแรกของโลกที่ใช้ Bitcoin เป็นเงินอย่างถูกกฎหมาย ประกาศว่าได้ซื้อ 500 Bitcoins ในราคาเฉลี่ย 30744 ดอลลาร์

6. หากมีหลายประเทศเลือกที่จะถือ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่มีอำนาจอธิปไตย Bitcoin อาจเปลี่ยนจาก "ขาขึ้นของสถาบัน" ในปัจจุบันเป็น "กระทิงระดับชาติ" กำจัดหุ้นสหรัฐและออกจากตลาดอิสระ


ตั้งแต่สูญเสียระดับแนวรับที่ 35,000 ดอลลาร์ในวันที่ 8 พฤษภาคม ราคาของ Bitcoin ไม่ได้หยุดการลดลง แต่ลดลงอีกและลดลงต่ำกว่าระดับจำนวนเต็มที่ 33,000 ดอลลาร์ในวันที่ 9 พฤษภาคม ขณะนี้มีรายงานว่าเป็น 32284 เหรียญ ราคานี้เป็นราคาต่ำสุดใหม่ตั้งแต่ปี 2022 ลดลงมากกว่าครึ่งจากระดับสูงสุดที่ 68991 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มีการสนับสนุนอย่างมากสำหรับราคาของ Bitcoin ในพื้นที่ $32000 ~ 35000 Bitcoin ได้แตะต้องบริเวณนี้และดีดตัวขึ้นสองครั้งตั้งแต่ปี 2022 เนื่องจากความตื่นตระหนกของตลาดในปัจจุบัน ยังต้องใช้เวลาในการทดสอบว่า ราคา Bitcoin สามารถรองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพในรอบขาลงนี้หรือไม่


แนวโน้มราคาของตลาด cryptocurrency ทั้งหมดนั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับราคาของ Bitcoin ภายในเจ็ดวัน ราคาของ Bitcoin ลดลง 16% ส่งผลให้ตลาดสกุลเงินดิจิตอลทั้งหมดลดลงพร้อมกัน ราคาของ Ethereum ก็ลดลงเช่นกัน 15% ภายในเจ็ดวัน ตอนนี้รายงานอยู่ที่ $2400 สถานการณ์ของสกุลเงินทางเลือกบางสกุลยิ่งแย่ลงไปอีก ราคาของ DOT ลดลง 21%, SHIB ลดลง 20% และ ApeCoin ซึ่งออกหลังจากนั้นไม่นานก็ลดลงมากถึง 30% นอกจากนี้ ราคาของ LUNA ก็ลดลง 30% ภายในหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งต้องสงสัยว่าเข้าสู่ "เกลียวมรณะ"


คุณลักษณะความเสี่ยงเปิดเผยว่า Bitcoin ตกลงพร้อม ๆ กับหุ้นสหรัฐ

---

ก่อนหน้านี้ Bitcoin มักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ต่อต้านความเสี่ยงที่คล้ายกับทองคำ แต่ด้วยการมีส่วนร่วมของสถาบันในตลาดสกุลเงินดิจิทัลอย่างลึกซึ้ง ประสิทธิภาพของ Bitcoin นั้นใกล้เคียงกับหุ้นเทคโนโลยีจริงๆ ตามรายงานจากอุตสาหกรรมการธนาคารของสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin กับราคาทองคำใกล้จะถึงศูนย์แล้ว ในทางตรงกันข้าม มันแสดงให้เห็นความสัมพันธ์บางอย่างกับดัชนี S & P 500 และความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับดัชนี Nasdaq 100 นอกจากนี้ ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ราคา Bitcoin ได้แสดงความสัมพันธ์เชิงลบกับราคาทองคำในระดับหนึ่ง



ธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ตลาดตกต่ำ

---

การลดลงของรอบนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด นับตั้งแต่การระบาดของไวรัสโควิด-19 การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุตสาหกรรมทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อของอุปทานทั่วโลก และความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ผลักดันราคาพลังงาน อาหาร และสินค้าปริมาณมากอื่นๆ . ปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อในประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นเป็น 7.9% ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 40 ปี ค่าครองชีพ เช่น อาหาร น้ำมัน และค่าเช่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อมาตรฐานการครองชีพของครอบครัวชาวอเมริกัน

เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อในประเทศ ธนาคารกลางสหรัฐไม่ควรเริ่มใช้นโยบายการคลังที่เข้มงวดขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อระงับการคาดการณ์เงินเฟ้อและทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับเป้าหมาย ในช่วงต้นปีนี้ อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของรัฐบาลกลางสหรัฐยังอยู่ในช่วง 0 ~ 0.25% สถาบันการเงินรายใหญ่ทั่วโลกเชื่อว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของรัฐบาลกลางโดย 125 เป็น 175 คะแนนพื้นฐานในปี 2565 โดยขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 คะแนนพื้นฐานในแต่ละครั้งและห้าถึงเจ็ดครั้ง สถาบันบางแห่งเชื่อว่าเฟดมีความเสี่ยงที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 คะแนนพื้นฐานในคราวเดียว เมื่อวันที่ 16 มีนาคม Federal Reserve ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานเพื่อปรับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของรัฐบาลกลางเป็นช่วง 0.25% ~ 0.5% ซึ่งนำไปสู่การพุ่งขึ้นและการดีดตัวขึ้นของดัชนีหุ้นหลักสามตัวในสหรัฐ รัฐ

อย่างไรก็ตาม การควบคุมอัตราเงินเฟ้อแบบไม่แสดงอาการนี้ได้ดึงดูดความไม่พอใจจากทุกฝ่าย เจ้าหน้าที่เหยี่ยวบางคนเชื่อว่าเฟดควรใช้ฟ้าร้องหมายถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วไปยังช่วงที่เป็นกลาง ซึ่งทำให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 คะแนนพื้นฐานในคราวเดียว เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ธนาคารกลางสหรัฐประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง 50 จุด โดยเพิ่มช่วงเป้าหมายของอัตราเงินกองทุนของรัฐบาลกลางเป็น 0.75% ~ 1% นี่เป็นครั้งแรกที่เฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 คะแนนพื้นฐานตั้งแต่ปี 2000 ในเวลาเดียวกัน ธนาคารกลางสหรัฐยังได้ประกาศด้วยว่าจะเริ่มลดขนาดนาฬิกาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน และคาดว่ามาตราส่วนการลดขนาดจะสูงถึง 9 ล้านล้านดอลลาร์ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลางซึ่งกำหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐอยู่ในช่วง 2% ~ 3% ซึ่งหมายความว่าในปีนี้จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง หลังการประชุมประธานเฟด นายพาวเวลล์ กล่าวว่า เฟดยังคงคาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 จุดพื้นฐานสองครั้งในการประชุมสองครั้งในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม แต่ไม่มีแผนขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ใหญ่กว่านี้ (นั่นคือจะไม่ขึ้นดอกเบี้ย อัตราโดย 75 คะแนนพื้นฐานในครั้งเดียว)

คำพูดของพาวเวลล์ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นชั่วคราว แต่แล้วในวันที่ 6 แนวโน้มตลาดกลับตัวอย่างรวดเร็วและเปิดรอบการตกต่ำรอบปัจจุบันอย่างสมบูรณ์ เป็นที่เชื่อกันโดยทั่วไปว่าราคาของหุ้นเทคโนโลยีมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยมากกว่า เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น และนักลงทุนจะชอบสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นเทคโนโลยีและสกุลเงินดิจิทัล


นอกจากธนาคารกลางสหรัฐแล้ว ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกยังเข้าสู่รอบการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ด้วย ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ธนาคารกลางออสเตรเลียเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหลังจากช่วงเวลา 11 ปี เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษได้ประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงจาก 0.75% เป็น 1%


ความเสี่ยงของการ "ยอมแพ้" ยังมีอยู่

---

เมื่อวันที่ พฤษภาคม Carter Braxton Worth ผู้ก่อตั้ง Worth Charting เชื่อว่าราคาของ Bitcoin อาจลดลงอย่างรวดเร็วและทดสอบระดับราคาที่ $30000 ครั้งสุดท้ายที่ Bitcoin ร่วงลงคือในเดือนมิถุนายน 2021 นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าตลาด Bitcoin จะ "ยอมแพ้" อีกครั้ง กล่าวคือ ผู้ถือ Bitcoin ตกอยู่ในความตื่นตระหนกที่ควบคุมไม่ได้และขาย Bitcoin ในปริมาณมาก ส่งผลให้ราคาลดลงอีก ในวันที่ 12 มีนาคม 2020 Bitcoin "ยอมจำนน" และราคาลดลง 43% ในหนึ่งวัน



บทสรุป: ความเป็นไปได้ของ "วัวประจำชาติ"

---

ในระยะสั้น แนวโน้มราคาของ Bitcoin ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับแนวโน้มของ NASDAQ ในปัจจุบัน ด้วยการมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งของสถาบันการเงิน มันยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับ Bitcoin ที่จะหลุดพ้นจากการเล่าเรื่องในปัจจุบัน กำจัดอิทธิพลของหุ้นสหรัฐ และออกจากตลาดอิสระ แต่ในภาวะวิกฤตอาจมีการพลิกกลับ ในขณะที่เขียนภาษาญี่ปุ่นในวันที่ 10 พฤษภาคม ราคาของ Bitcoin พุ่งแตะระดับแนวรับที่ 30000 ดอลลาร์แล้วดีดตัวขึ้น จากนั้น เอลซัลวาดอร์ ซึ่งเป็นประเทศแรกของโลกที่ใช้ Bitcoin เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย ประกาศว่าได้ซื้อ 500 Bitcoins ในราคาเฉลี่ย 30744 ดอลลาร์


การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ รอบปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศด้อยพัฒนาส่วนใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย สำหรับบางประเทศที่ต้องการกำจัดการควบคุมทางการเงินของสหรัฐฯ Bitcoin กลายเป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้ หากหลายประเทศเลือกที่จะถือ Bitcoin เป็นสกุลเงินอธิปไตย เป็นไปได้ไหมที่ Bitcoin จะเปลี่ยนจาก "ขาขึ้นของสถาบัน" ในปัจจุบันเป็น "กระทิงระดับชาติ"? โอกาสนี้อาจคุ้มค่าที่จะจินตนาการ

หมายเหตุเกี่ยวกับตลาด: ตลาดในปัจจุบันมีความผันผวนอย่างมาก Gate.io เตือนผู้ใช้ส่วนใหญ่ให้ใส่ใจกับความเสี่ยง และไม่ติดตามตลาดกระทิงและเอาชนะตลาดหมี และลงทุนในการสุ่มสี่สุ่มห้า


ผู้แต่ง: Gate.io นักวิจัย: Edward H. ผู้แปล: Joy Z.
* บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของผู้วิจัยเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนใดๆ
*Gate.io ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในบทความนี้ อนุญาตให้โพสต์บทความใหม่ได้หากมีการอ้างอิง Gate.io ในกรณีอื่นๆ ทั้งหมด จะดำเนินการทางกฎหมายเนื่องจากการละเมิดลิขสิทธิ์



Gate.io บทความแนะนำ
UST แยกออกจากดอลลาร์สหรัฐฯ และ LUNA ร่วงลง 60%
เรื่องราวทั้งหมดของการได้มาซึ่ง Twitter ของ Musks
ชื่อโดเมนดิจิทัล NFT ได้กระตุ้นการเพิ่มขึ้น——มูลค่าในอนาคตของ ENS