RSS3：ยุคฟื้นฟูข้อมูลในเว็บ 3.0

10 March 10:30

สรุป

1. เมื่อ Web 3.0 ก้าวหน้า RSS ซึ่งเป็นแนวคิดโอเพนซอร์สแบบคลาสสิกได้กลับมาในโหมดการกระจายอำนาจ
2. RSS3 ไม่ใช่แอปพลิเคชันเฉพาะ แต่เป็นเนื้อหาที่กระจายอำนาจและโปรโตคอลทางสังคม
3. ตามที่อยู่กระเป๋าสตางค์ การรวมโฟลว์ข้อมูลของ RSS3 จะรวมรอยเท้าบนเครือข่ายของผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถแสดง/ซ่อนทรัพย์สินหรือรอยเท้าได้ตามความต้องการ
4. RSS3 มีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์ข้อมูลประจำตัวส่วนบุคคลใน Web 3.0 และกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญสำหรับอินเทอร์เน็ตยุคหน้า

กรอกแบบฟอร์มเพื่อรับคะแนนสะสม 5 คะแนน→

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่มีอายุมากอาจยังจำวันของ RSS ได้ ในสมัยนั้น เว็บไซต์ข้อมูลและโซเชียลมีเดียต่างๆ ยังไม่ก้าวหน้า และบล็อกส่วนตัวเป็นแหล่งที่มาของเนื้อหาที่มีคุณภาพบนอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้มักใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี RSS (Really Simple Syndication) เพื่อสมัครรับข้อมูลบล็อก เนื้อหาเว็บไซต์ และรับเนื้อหาที่อัปเดตในเวลาที่เหมาะสม

โดยอาศัยเทคโนโลยี RSS ผู้ใช้สามารถรับการอัปเดตเนื้อหาโดยไม่ต้องลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ นอกจากนี้ยังเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์และรายได้จากการโฆษณาอีกด้วย เนื่องจากอินเทอร์เน็ตมีการกระจายอำนาจมากขึ้น เนื้อหาจึงค่อย ๆ ย้ายจากหน้าเว็บไปยังแอปที่พัฒนาโดยบริษัท และเป็นการยากที่จะรวบรวมข้อมูลที่อัปเดตผ่าน RSS การกำเนิดของโซเชียลมีเดียทำให้ผลกระทบของเทคโนโลยี RSS อ่อนแอลง แม้ว่า RSS จะไม่ได้รับความนิยมในขณะนี้ แต่ก็มีผู้ติดตามที่ภักดีจำนวนหนึ่ง ในโลกที่ข้อมูลระเบิดและอัลกอริทึมมีอำนาจเหนือกว่า เชื่อกันว่า RSS เป็นวิธีหลักในการรักษาความเป็นอิสระและหลบหนีจากรังไหมข้อมูล

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน การพัฒนา Web 3.0 ได้นำแนวคิดโอเพ่นซอร์สแบบคลาสสิกของ RSS กลับมาในรูปแบบการกระจายอำนาจ

RSS3 คืออะไร?

RSS3 ไม่ใช่แอปพลิเคชันเฉพาะ แต่เป็นเนื้อหาที่กระจายอำนาจและโปรโตคอลทางสังคม RSS3 เปิดตัวครั้งแรกโดย Joshua อดีตผู้ปฏิบัติงาน RSS ในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 คาดว่าจะเป็นเครื่องมือพื้นฐานในยุค Web 3.0 ขณะนี้มี Dapp จำนวนมากที่ได้รับการพัฒนาและใช้งานบนพื้นฐานของ RSS3

การรวมกระแสข้อมูลและการไหลของมูลค่าเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของ Web 3.0 ในแง่ของการไหลของข้อมูล RSS3 มุ่งเน้นไปที่การกระจายข้อมูลอินเทอร์เน็ตแบบกระจายอำนาจเป็นหลัก และให้บริการจัดเก็บและแสดงผลที่สอดคล้องกันสำหรับข้อมูลที่กระจายอำนาจ สอดคล้องกับตรรกะของโปรโตคอล RSS แบบคลาสสิก RSS3 อนุญาตให้ผู้ใช้สมัครรับเนื้อหาอินเทอร์เน็ตใดๆ ที่สนับสนุนโปรโตคอล RSS3 โปรโตคอลจะรวมข้อมูลที่อัปเดตลงในสตรีมข้อมูลโดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้ดูบนเครื่องอ่านเฉพาะ เกี่ยวกับแอปพลิเคชันที่รองรับ RSS3 ได้พัฒนาแอปพลิเคชันชื่อโดเมน Web3 PASS (ไชโย) ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้โทเค็น PASS ของ ERC-20 เพื่อลงทะเบียนบริการชื่อโดเมน RNS โปรเจ็กต์มุ่งมั่นที่จะให้บริการข้อมูลประจำตัวและโฮมเพจสำหรับผู้ใช้ใน Web 3.0 นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถใช้โปรแกรมอ่าน RSS3 Revery ที่ตรงกันเพื่อเรียกดูสตรีมข้อมูล RSS3 ที่พวกเขาเคยสมัครรับข้อมูลมาก่อน

เพื่อให้เฉพาะเจาะจง การรวมโฟลว์ข้อมูลของ RSS3 จะขึ้นอยู่กับที่อยู่กระเป๋าเงิน เมื่อผู้ใช้เชื่อมโยงที่อยู่กระเป๋าเงินกับ RSS3 ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่จะถูกเก็บไว้ในไฟล์ RSS3 ที่สร้างขึ้นใหม่และแสดงบนหน้าแรกของ Web3 PASS RSS3 จะรวมรอยเท้าบนเครือข่ายของผู้ใช้ และผู้ใช้สามารถแสดง/ซ่อนสินทรัพย์หรือรอยเท้าได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถใช้ Revery เพื่อสมัครรับข้อมูลที่อยู่ของผู้ใช้รายอื่นและรับการเคลื่อนไหวล่าสุดบนอินเทอร์เน็ต Web3

ภาพ: หน้าแรกของ Revery ของผู้ก่อตั้ง RSS3 Joshua

RSS3 รวบรวมข้อมูลตามที่อยู่กระเป๋าเงิน ซึ่งทำลายอำนาจสูงสุดของแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตแบบดั้งเดิม ด้วย RSS3 ข้อความที่โพสต์โดยผู้ใช้บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Mirror และ Twitter สามารถแสดงบนหน้าแรกได้

RSS3 Blockchain

จากมุมมองของสถาปัตยกรรมเครือข่าย RSS3 บรรลุการกระจายอำนาจของการเป็นเจ้าของข้อมูล ข้อมูลบนเครือข่ายของผู้ใช้ (ไฟล์ RSS3) ถูกเก็บไว้ในโหนดย่อยของเครือข่ายต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งยังช่วยลดความเป็นไปได้ที่ข้อมูลจะถูกผูกขาดอีกด้วย โหนดเครือข่ายอยู่ใน Serving Node และ Relay Node กลุ่มแรกประกอบด้วยกลุ่มโหนดบริการเพื่อร่วมกันจัดการและจัดเก็บไฟล์บนเครือข่าย และตัวสร้างดัชนีส่วนกลางที่ประกอบด้วยโหนดรีเลย์มีหน้าที่หลักในการรักษาความปลอดภัยและการกำกับดูแลเครือข่าย

ภาพ: สถาปัตยกรรมเครือข่าย RSS3

ในขณะเดียวกัน เนื่องจากขาดแรงจูงใจที่เกิดจากลักษณะโอเพนซอร์สของโปรโตคอล RSS แบบคลาสสิก โครงการ RSS3 จึงได้รับการจัดการโดย RSS3 DAO DAO มีอำนาจในการเลือกกลุ่มโหนดการกำกับดูแลและสิทธิ์ของตัวสร้างดัชนีทั่วโลก นอกจากนี้ยังสามารถลงคะแนนให้มีส่วนร่วมในกลไกจูงใจและเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับชั้นล่างของเครือข่าย เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 RSS3 ได้ออกโทเค็นชื่อเดียวกัน RSS3 ใน Cooper Launch โดยมีโทเค็นทั้งหมด 1 พันล้านโทเค็นที่จะทยอยปล่อยออกมาภายใน 5 ปี $RSS3 จะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการกำกับดูแล DAO

บทสรุป

เห็นได้ชัดว่าถึงแม้จะเป็นบริการ RSS ที่เป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนา RSS3 ในระดับมาก แต่การใช้ RSS3 ค่อนข้างแตกต่างจากบริการ RSS ที่ใช้ในยุค Web 2.0 เมื่อเปรียบเทียบกับบริการ RSS ที่รวบรวมข้อมูลการสมัครรับข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตแล้ว RSS3 จะแสดงคุณลักษณะทางสังคมที่แข็งแกร่งกว่า และจะรวมข้อมูลแบบ on-chain และ off-chain ที่ได้รับการสนับสนุนบางส่วนภายใต้ที่อยู่ที่แน่นอน มีแนวโน้มว่า RSS3 จะเป็นศูนย์ข้อมูลประจำตัวส่วนบุคคลของ Web 3.0 และกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญสำหรับอินเทอร์เน็ตยุคหน้า

ผู้แต่ง: Edward H. , นักวิจัย Gate.io; ผู้แปล: Cedar W.
*บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของผู้วิจัยเท่านั้น และไม่ถือเป็นข้อเสนอแนะในการลงทุนใดๆ
*Gate.io ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในบทความนี้ อนุญาตให้โพสต์บทความใหม่ได้หากมีการอ้างอิง Gate.io ในทุกกรณี การดำเนินการทางกฎหมายจะถูกดำเนินการเนื่องจากการละเมิดลิขสิทธิ์