รุ่งอรุณแห่งอนาคตกำลังมาหรือเป็นเพียงแฟลชในกระทะ? Web 5 สามารถเป็นนัก

1. ในกระบวนการพัฒนาจากเว็บ 1.0 เป็น 3.0 เราพบการเปลี่ยนแปลงจาก "การดู" เป็น "การสร้าง" แล้วเปลี่ยนเป็น "การเป็นเจ้าของ"

2. เป้าหมายของ Web 5 นั้นคล้ายกับของ Web 3 โดยการสร้าง Decentralized Web Platform (DWP) จะช่วยให้นักพัฒนาสร้าง Decentralized Web Applications (DWAs) โดยใช้ Decentralized Identities (DID) และ Decentralized Web Nodes (DWN) และสุดท้ายส่งคืนข้อมูลประจำตัวและความเป็นเจ้าของข้อมูลให้กับผู้ใช้

3. ไม่เหมือนกับเว็บ 3 ตรงที่ Web 5 จะเชื่อมโยงเฉพาะข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ผ่านโปรโตคอล DID ION บนเครือข่าย Bitcoin ในขณะที่เนื้อหาอื่น ๆ จะถูกเก็บไว้ใน DWN ที่ควบคุมโดยผู้ใช้

4. Dorsey เชื่อว่าอินเทอร์เน็ตจำเป็นต้องมีโทเค็นของตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัย และ Bitcoin เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน Jack Dorsey ผู้ก่อตั้ง Twitter ได้เสนอแนวคิดของ "Web 5" เป็นครั้งแรก และได้ประกาศโครงการที่เกี่ยวข้องในการประชุม Consensus 2022 ซึ่งจัดโดย Block ซึ่งทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดในชุมชน


การเคลื่อนไหวนี้อาจทำให้ผู้คนสับสน ท้ายที่สุดแล้ว แม้แต่ Web 3 ก็ยังไม่ได้รับความนิยม และ Web 4 ก็ยังไม่ปรากฏ เว็บ 5 มาจากไหน? บางคนถึงกับพูดติดตลกว่าการพัฒนาอินเทอร์เน็ตเป็นไปตามตัวเลขฟีโบนักชี 1+2=3, 2+3=5 ตามตรรกะนี้ อินเทอร์เน็ตรุ่นต่อไปจะเป็น Web 8, 3+5=8 นั่นคือ ข้าม Web 6 และ Web 7 โดยตรง อันที่จริง ตรรกะของดอร์ซีย์เผยออกมาเช่นนี้


เว็บ 5 = เว็บ 2 + เว็บ 3

---

ในกระบวนการพัฒนาจากเว็บ 1.0 เป็น 3.0 เราพบการเปลี่ยนแปลงจาก "การดู" เป็น "การสร้าง" และเปลี่ยนเป็น "การเป็นเจ้าของ" ในยุค Web 1 เนื้อหาบนเครือข่ายได้รับการอัพเดตโดยองค์กรเป็นหลัก ผู้ใช้รายอื่นสามารถเรียกดูและดึงข้อมูลเท่านั้น และไม่สามารถโต้ตอบกับเครือข่ายได้ ในยุค Web 2 ผู้เข้าร่วมอินเทอร์เน็ตทุกคนได้กลายเป็นผู้สร้างเนื้อหาเครือข่าย ทุกคนสามารถเผยแพร่เนื้อหาบนอินเทอร์เน็ตได้ อินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นเครือข่ายแบบโต้ตอบที่มีการไหลของข้อมูลแบบสองทาง อย่างไรก็ตาม หัวข้อที่สำคัญที่สุดในระบบเศรษฐกิจของครีเอเตอร์ในยุค Web 2 ยังคงเป็นแบรนด์และแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าของเนื้อหา แพลตฟอร์มส่วนกลางขนาดใหญ่ใช้ประโยชน์จาก Web 2 อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับเจ้าของบ้านในยุคศักดินา รายได้ส่วนใหญ่จากผลงานของครีเอเตอร์ถูกแย่งชิงไปจากแพลตฟอร์ม


ธีมของ Web 3 คือ "การกระจายอำนาจ" และ "การคืนความเป็นเจ้าของให้กับประชาชน" คุณลักษณะหลักประการหนึ่งคือการรวมกระแสข้อมูลและการไหลของข้อมูลเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดการกระจายอำนาจของการเป็นเจ้าของข้อมูล กระแสคุณค่าสะท้อนผ่านโทเค็นต่างๆ และบล็อคเชนจะประกอบขึ้นเป็นชั้นมูลค่าของอินเทอร์เน็ต Web 3 คือการปฏิวัติสำหรับผู้สร้างที่จะยึดความเป็นเจ้าของเนื้อหาจากผู้มีอำนาจ ทำลายระบบการกระจายรายได้ที่ไม่สมเหตุผล ทำลายการแสวงหาผลประโยชน์จากตัวกลางการซื้อขาย และได้รับประโยชน์โดยตรงจากงานของพวกเขาผ่านโทเค็นและสัญญา อย่างไรก็ตาม Web 3 ก็มีปัญหาของตัวเองเช่นกัน โทเค็นต่างๆ ทำให้เกิดบรรยากาศการเก็งกำไรที่แข็งแกร่ง และการใช้เครื่องมือต่างๆ มักถูกจำกัดโดยประสิทธิภาพของเครือข่ายสาธารณะ


"Web 5" มีเป้าหมายเพื่อแทนที่ Web 3 และกลายเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายแบบกระจายอำนาจรุ่นใหม่ เป้าหมายของ Web 5 นั้นคล้ายกับของ Web 3 โดยการสร้าง Decentralized Web Platform (DWP) ช่วยให้นักพัฒนาสร้าง Decentralized Web Applications (DWA) โดยใช้ Decentralized Identities (DID) และ Decentralized Web Nodes (DWN) และสุดท้าย คืนเอกลักษณ์และความเป็นเจ้าของข้อมูลให้กับผู้ใช้ หัวข้อเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาในยุคของ Web 3 แต่ต่างจาก Web 3 ที่เครือข่ายสาธารณะหลายแห่งเบ่งบาน แผน Web 5 ของ TBD ต้องการเพียง Bitcoin ซึ่งเป็นเครือข่ายสาธารณะที่มีฉันทามติมากที่สุด

Web 5 ต่างจาก Web 3 ตรงที่เชื่อมโยงข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ผ่านโปรโตคอล DID ION บนเครือข่าย Bitcoin ในขณะที่เนื้อหาอื่น ๆ จะถูกเก็บไว้ใน DWN ที่ควบคุมโดยผู้ใช้ เช่นเดียวกับในยุค Web 2 นักพัฒนาสามารถมุ่งเน้นที่การมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นแก่ผู้ใช้ รหัส Web 5 จะเป็นโอเพ่นซอร์สและกลับสู่ความตั้งใจเดิมของการแบ่งปันอินเทอร์เน็ตและการสร้างร่วม ในขณะเดียวกัน Web 5 จะไม่ออกโทเค็นเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยลดบรรยากาศของการเก็งกำไรที่มากเกินไปได้อย่างสมบูรณ์

เว็บ 5 ของ TBD จะประกอบด้วยสามส่วนหลัก ตัวระบุแบบกระจายศูนย์ ข้อมูลประจำตัวที่ตรวจสอบได้ และโหนดเว็บแบบกระจายอำนาจ ในแผนนี้ ไม่มีเชนสาธารณะที่ชาญฉลาดเช่น Ethereum หรือเชนสาธารณะที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น Solana การจัดเก็บและดำเนินการข้อมูลผู้ใช้ทั้งหมดและการคำนวณที่เกี่ยวข้องบนบล็อคเชนนั้นไม่สมจริง แม้แต่ Ethereum ซึ่งสร้างสัญญาอัจฉริยะ ได้ละทิ้งวิสัยทัศน์ในการเป็น "คอมพิวเตอร์ทั่วโลก" และถือว่าตัวเองเป็น "ชั้นการชำระบัญชีทั่วโลก" หากเฉพาะข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ถูกเก็บไว้ในห่วงโซ่ ปัญหาของความสามารถในการปรับขนาดบล็อกเชนจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป


ในแผน Web 5 ของ Dorsey Bitcoin มีตำแหน่งที่สำคัญที่สุด นี้เป็นจริงไม่น่าแปลกใจ ในอีกด้านหนึ่ง ในบรรดาบล็อคเชนทั้งหมด Bitcoin มีระดับการกระจายอำนาจสูงสุดในทางทฤษฎี ในทางกลับกัน Dorsey หนึ่งในผู้ประกอบการที่มีความรู้สึกทางอินเทอร์เน็ตครั้งสุดท้ายใน Silicon Valley มักจะเป็นผู้สนับสนุน Bitcoin อย่างกระตือรือร้น


คนบ้าเทคโนโลยีโอบรับความรักที่ซื่อสัตย์ต่อ Bitcoin

---

นับตั้งแต่ก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอของ Twitter ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 Dorsey ได้มุ่งเน้นที่การดำเนินงานของ Square ซึ่งเป็นบริษัทชำระเงินผ่านมือถืออีกแห่งหนึ่งที่เขาก่อตั้งขึ้นในปี 2552 Dorsey มีความสนใจในด้าน cryptocurrency มาอย่างยาวนาน และถือเป็น Bitcoin maximalist Square ได้ซื้อ Bitcoin มากกว่า 8,000 สองครั้งแล้ว บริษัท ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Block ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555

Dorsey เชื่อว่าอินเทอร์เน็ตจำเป็นต้องมีโทเค็นของตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัย และ Bitcoin เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ปัจจุบัน Block ได้สร้างระบบนิเวศขนาดใหญ่สำหรับ Bitcoin รวมถึงระบบข้อมูลประจำตัวแบบกระจายศูนย์ TBD การแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ tbDEX กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ Bitcoin ฯลฯ แอปพลิเคชันการชำระเงิน Cash APP ยังสนับสนุนการส่งและซื้อขาย Bitcoin อย่างรวดเร็วผ่านเครือข่าย Bitcoin Lightning

ดอร์ซีย์เป็นนักวิจารณ์เว็บ 3 ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 เขาทวีตว่าเว็บ 3 ที่เรียกว่าเป็นเพียงคำศัพท์ทางการตลาด วิชาที่ควบคุม Web 3 จริงๆ คือสถาบัน VC หลายแห่งจาก Silicon Valley พวกเขายังคว้าผลประโยชน์ส่วนใหญ่มาจาก Web 3



บทสรุป

---

เราต้องถอนใจ: วันหนึ่งในพื้นที่เข้ารหัสลับ หนึ่งปีในความเป็นจริง แนวคิดเดิมยังไม่ได้ดำเนินการ และได้มีการนำเสนอแนวคิดใหม่แล้ว ผู้คนมักคิดว่าการออกโทเค็นเป็นสาระสำคัญของ Web 3 และแนวคิดของ Web 5 นั้นกำลังเขย่าฉันทามติพื้นฐานนี้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ไม่มีโทเค็นเป็นสิ่งจูงใจ Web 5 จะได้รับผู้ใช้และตระหนักถึงการกระจายราคาเครือข่ายได้อย่างไร ในทางกลับกัน ในฐานะผู้ใช้แต่ละราย พวกเขายินดีที่จะถือและรักษาโหนดเว็บแบบกระจายอำนาจของตนเองหรือไม่? ให้เราติดต่อกับว่าปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้หรือไม่



ผู้แต่ง: Gate.io นักวิจัย: Ashley H. ผู้แปล: Joy Z.
* บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของผู้วิจัยเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนใดๆ
*Gate.io ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในบทความนี้ อนุญาตให้โพสต์บทความใหม่ได้หากมีการอ้างอิง Gate.io ในกรณีอื่นๆ ทั้งหมด จะดำเนินการทางกฎหมายเนื่องจากการละเมิดลิขสิทธิ์